งาน youtube-รวมเพลง

                                              

งาน YouTube-รวมเพลง

ลง mac บน windows ด้วย vmware 2

ลง mac บน windows ด้วย VmWare 2

1. เลือกภาษาครับ ก็ภาษาอังกฤษล่ะกันครับ ใครถนัดภาษาอะไรก็เลือกได้เลย > จากนั้นกด ลูกศรด้านล่าง

2. รอนิดหน่อย

3. กด Continue

4. กด Agree

5. หน้าจอสำหรับเลือก Disk ในการติดตั้ง แต่ตอนนี้ยังว่างอยู่

6. ไปที่เมนู Utility ด้านบน > เลือก Disk Utility...

7. คลิกที่ด้านซ้าย

8. จะพบหน้าตาอย่างด้านล้างนี้

9. กด Partition

10. ไปที่ Volume Scheme > เลือก 1 Partition พอ

11. ตั้งชื่อ Volume Information Name เช่น ผมตั้ง HD > จากนั้นกด Apply

12. จะมีหน้าขึ้นมาอีกหน้ากด Partition

13. เมื่อเสร็จจะเป็นหน้าตาดังด้านล่างครับ > จากนั้นกดปิดหน้านี้ไปครับ กดที่ปุ่มสีแดงด้านซ้ายบน

14. จะเริ่มทำการติดตั้งครับ ทีนี้ก็รอจะนานซักหน่อยครับ

15. หลังจากติดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว กด restart 

16. จะพบหน้า Operation System not found ไม่มีอะไรครับ ไม่ต้องตกใจดังรูป 

19. ให้คลิกขวาที่ รูป CD ด้านล่าง > กด setting > เลือก Darwin_SnowLeopardv2.0.iso > จากนั้นกด stop ที่กดสี่เหลี่ยมสีแดง > กด play อีกครั้ง

20. หลังจากเราให้ VMware boot จากไฟล์ Darwin ระบบจะเข้ามาสู่หน้าจอ แอปเปิล รอสักนิดครับอย่าใจร้อน เท่ากับว่าตอนนี้เราติดตั้ง Mac OSX เรียบร้อยแล้ว และก็สามารถ Boot เข้าได้สำเร็จแล้ว ดีใจด้วยครับ ต่อไปนี้จะเป็นการตั้งค่าสำหรับเริ่มจากใช้งาน Mac OSX แล้ว โดย เลือก Continue

21. เลือก Continue

22. เลือกว่าต้องการโอนข้อมูลจาก Mac ที่เราเคยมีหรือไม่ ของผมไม่มี เลือก Do not transfer > กด Continue

23. ไส่ Apple ID ถ้ามี ไม่มีก็กด Continue ได้เลยเหมือนกัน

24. กรอกข้อมูลของท่านเพื่อทำการ Register ครับ แต่ถ้าไม่กรอกก็ Continue ได้เลย

25. ของผมไม่กรอกข้อมูลครับ จะมีหน้าจอมาถาม ก็กดปุ่ม Continue ผ่านไ

26. สร้าง Account สำหรับใช้ในเวลาติดตั้งโปรแกรมต่างๆบน OSX เหมือน ปกติจะให้ใส่ username และ password ตั้งดีๆครับ อย่าลืมนะครับ

27. เลือก Time Zone หา Bangkok Thailand ครับ

28. กด Go ครับ เสร็จซักที

29. ยินดีต้อนรับเข้าสู่หน้าจอ Mac OSX ครับ

ลง Mac บน windows ด้วย VmWare 1

ลง Mac บน windows ด้วย VmWare 1

เริ่มจากการสร้าง VMware Virtual Machine หรือ การจำลองพื้นที่สำหรับใช้ลง mac นั้นเอง

iiii

2. เลือก Typical > กดปุ่ม Next

3. เลือกข้อสุดท้าย > กดปุ่ม Next

4. เลือก Guest Operating System เป็น Other และ Version เป็น FreeBSD

5. ตั้งชื่อ Virtual Machine เช่น OSX และ เลือกที่จัดเก็บ เช่น G:\Virtual Machine\OSX เป็นต้น > กดปุ่ม Next

6. เลือกขนาด Disk แนะนำขั้นต่ำ 30 GB ครับ สำหรับคนต้องการจะลง cocos2d นะครับนอกนั้น 20 ก็พอครับ

7. กด Finsh

8. ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการ config VMware สำหรับ Mac OSX กด Edit virtual machine settings

9. กดที่ Memory ปรับจำนวน Memory แนะนำที่ประมานครึ่งนึงของ Memory ทั้งหมด 

10. เนื่องจาก Floppy disk เราไม่ได้ใช้ก็ให้ลบมันออกไปซะ ให้กดที่ Floppy > กด Remove > กด OK

11. ต่อไปจะเป็นการตั้งค่าให้ Boot Mac จาก Darwin_SnowLeopardv2.0.iso ก่อนที่จะไปเรียก แผ่น OSX โดย กดที่ CD/DVD (IDE) > เลือก Use ISO image file: > กด Browse...

12. เลือกไฟล์ Darwin_SnowLeopardv2.0.iso > กด OK > ปิดโปแกรม VMware ครับ ***แนะนำเพิ่มเติมให้เก็บไฟล์ Darwin_SnowLeopardv2.0.iso และ Mac OS X 10.6.3 retail.iso ไว้ใกล้ๆกัน เช่น ของผม G:\Virtual Machine\ เพื่อให้สะดวกในการเรียกใช้

13. หลังจากปิด VMware แล้ว เนื่องจากเราจะไปแก้ไขไฟล์บางอย่าง ให้เปิดโปรแกรม notepad หรือ wordpad โดยไปที่ start (ซ้ายล่าง) > Programs > Accessories > notepad หรือ wordpad ตัวอย่าง notepad ดังรูป

14. ให้ไปที่ Folder ที่เราจัดเก็บไฟล์ Virtual Machine มองหาไฟล์ที่มีนามสกุล .vmx เช่น ของผม คือ G:\Virtual Machines\OSX\OSX.vmx ให้ลากไฟล์นั้นไปวางใน notepad หรือ wordpad จะได้ผลลัพธ์ดังรูปต่อไปนี้ ***จากนั้นให้ เปลี่ยนคำสั่งจาก guestOS ="FreeBSD" เป็น guestOS ="darwin10" และ เพิ่มคำสั่ง paevm = "true" ไว้ล่างสุด จากนั้น save โดย กด Ctrl + s หรือ ไปที่ File > Save

15. จากนั้นเปิด VMware ขึ้นมาใหม่ กดที่ Play on this virtual machine จะเหมือนเป็นการเปิดเครื่องจำลองล่ะ จะเห็นเป็นหน้าดำๆดังรูป

16. ขั้นตอนนี้มันจะรอเรียกแผ่น ให้กด Enter 1 ที จากนั้นให้คลิกขวาที่ รูป CD ด้านล่าง > กด Connect จากนั้น คลิกขวาที่ รูป CD ด้านล่างอีกครั้ง > กด setting ***โดยการควบคุมหน้าจอระหว่าง windows กับ vmware ให้กด alt+ctrl และ ถ้าอยากให้ vmware เป็นแบบ full screen กด alt+ctrl+enter ไม่ต้องการ full screen ก็กด alt+ctrl+enter อีกครั้ง

17. ให้เลือกไฟล์ OSX ของผมคือ Mac OS X 10.6.3 retail.iso จากนั้นกด c เพื่อให้เริ่มทำการ Boot แผ่น OSX

18. ในที่สุดก็สามารถ Boot แผ่น OSX ได้ซักที ถ้าเห็นรูปแอปเบิ้ลก็คือคุณทำได้ล่ะ

การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP

     การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows XP


  เริ่มต้น โดยการเซ็ตให้บูตเครื่องจาก CD-Rom Drive ก่อน โดยการเข้าไปปรับตั้งค่าใน bios ของเครื่องคอมพิวเตอร์  โดยเลือกลำดับการบูต ให้เลือก CD-Rom Drive เป็นตัวแรก

ทำการปรับเครื่อง เพื่อให้บูตจาก CD-Rom ก่อน จากนั้นก็บูตเครื่องจากแผ่นซีดี Windows XP Setup โดยเมื่อบูตเครื่องมาจะมีข้อความให้กดปุ่มอะไรก็ได้ เพื่อบูตจากซีดี ก็เคาะ Enter ไปทีนึงก่อน

โปรแกรมจะทำการตรวจสอบและเช็คข้อมูลอยู่พักนึง รอจนขึ้นหน้าจอถัดไป

เข้ามาสู่หน้า Welcome to Setup กดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป  

หน้าของ Licensing Agreement กดปุ่ม F8 เพื่อทำการติดตั้งต่อไป 

ทำการเลือก Drive ของฮาร์ดดิสก์ที่จะลง Windows XP แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

เลือกชนิดของระบบ FAT ที่จะใช้งานกับ Windows XP หากต้องการใช้ระบบ NTFS ก็เลือกที่ข้อบน            แต่ถ้าจะใช้เป็น FAT32 หรือของเดิม    ก็เลือกข้อสุดท้ายได้เลย (no changes) ถ้าไม่อยากวุ่นวาย แนะนำให้เลือก FAT32  แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้ง รอสักครู่

หลังจากนั้น โปรแกรมจะทำการ Restart เครื่องใหม่อีกครั้ง                                                                       (ให้ใส่แผ่นซีดีไว้ในเครื่องแบบนั้น แต่ไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เมื่อบูตเครื่องใหม่ ปล่อยให้โปรแกรมทำงานไปเองได้เลย)

หลังจากบูตเครื่องมาคราวนี้ จะเริ่มเห็นหน้าตาของ Windows XP แล้ว รอสักครู่

โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้งต่าง ๆ ก็รอไปเรื่อย ๆ

จะมีเมนูของการให้เลือก Regional and Language ให้กดปุ่ม Next ไปเลยค่ะ ยังไม่ต้องตั้งค่าอะไรในช่วงนี้

ใส่ชื่อและบริษัทของผู้ใช้งาน ใส่เป็นอะไรก็ได้ แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

ทำการใส่ Product Key (จะมีในด้านหลังของแผ่นซีดี) แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

หน้าจอให้ใส่ Password ของ Admin ให้ปล่อยว่าง ๆ ไว้แบบนี้แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

เลือก Time Zone ให้เป็นของไทย (GMT+07:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

รอสักพัก จนกระทั่งขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมแล้วสำหรับการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP ครับ จากนั้น จะมีการบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นการใช้งานจริง ๆ

บูตเครื่องใหม่คราวนี้ อาจจะมีเมนูแปลก ๆ แบบนี้ เป็นการเลือกว่าเราจะบูตจากระบบ  Windows   ตัวเก่าหรือจาก Windows XP ครับ ก็เลือกที่ Microsoft Windows XP Professional ครับ ถ้าของใครไม่มีเมนูนี้ก็ไม่เป็นไร

เริ่มต้นบูตเครื่อง เข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP 

ในครั้งแรก อาจจะมีการถามเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใช้งาน กด OK เพื่อให้ระบบตั้งขนาดหน้าจอให้เราได้เลยนอกจากนี้ ถ้าหากเครื่องไหนมีการถาม การติดตั้งค่าต่าง ๆ ก็กดเลือกที่ Next หรือ Later ไปก่อน บางครั้งอาจจะมีให้เราทำการสร้าง Username อย่างน้อย 1 ฃื่อก่อนเข้าใช้งาน ก็ใส่ชื่อของคุณเข้าไปได้เลย